วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อขศ. ให้สัมภาษณ์เรื่องผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่มีต่อเขื่อนศรีนครินทร์


 
นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนของจังหวัดกาญจนบุรี เพื่อคลายข้อสงสัยและให้ความมั่นใจกับประชาชนว่าเขื่อนศรีนครินทร์ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวขนาด 6.3 ริกเตอร์ ที่เกิดขึ้นที่จังหวัดเชียงรายแน่นอน
          วันที่ 6 พฤษภาคม 2557 เวลา 09.00 น. นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์ ได้ให้สัมภาษณ์กับเหล่าสื่อมวลชน ได้แก่ ไทยรัฐ , ททบ.5 , เนชั่นแชนแนล ,เดลินิวส์ และ TNN 24 ถึงกรณีที่เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2557 เวลาประมาณ 18.08 น. เกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวจุดศูนย์กลางอยู่ที่ ต.ทรายขาว อ.พาน จ.เชียงราย ขนาด 6.3 ริกเตอร์ โดยจุดศูนย์กลางการเกิดแผ่นดินไหวซึ่งอยู่ห่างจากตัวเขื่อนแม่จาง 155.93 กิโลเมตร เขื่อนภูมิพล 281.38 กิโลเมตร เขื่อนสิริกิติ์ 231.26 กิโลเมตร เขื่อนวชิราลงกรณ ประมาณ 554.83 กิโลเมตร อยู่ห่างจากเขื่อนศรีนครินทร์ 590.26 กิเมตร ทั้งนี้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ได้ทำการตรวจสอบข้อมูลจากเครื่องตรวจวัดแผ่นดินไหวที่ติดตั้งในบริเวณเขื่อนทุกเขื่อนแล้ว ตรวจสอบแล้วพบว่ามีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อนน้อยกว่าค่าที่ออกแบบไว้ โดยมีแรงกระทำมาถึงตัวเขื่อนแม่จาง 0.0094g เขื่อนสิริกิติ์ 0.0048g เขื่อนเขื่อนภูมิพล 0.0199g เขื่อนศรีนครินทร์ 0.0015g และเขื่อนวชิราลงกรณ 0.0011g ซึ่งทุกเขื่อนออกแบบไว้ให้สามารถรองรับแรงกระทำได้ 0.1g ค่าที่ทุกเขื่อนรับแรงกระทำได้จึงมีค่าน้อยมาก สำหรับภายในอุโมงค์ใต้ดินใต้ตัวเขื่อนศรีนครินทร์ปัจจุบันมีปริมาณน้ำซึมประมาณ 51 ลิตรต่อนาที ซึ่งถือว่าเป็นเกณฑ์การรั่วซึมของน้ำที่เป็นปกติของเขื่อน โดยระดับที่จะเป็นอันตรายต่อเขื่อนได้คือระดับ 90 ลิตรต่อนาที ซึ่งค่าที่ได้ก็ยังห่างจากระดับที่เป็นอันตรายต่อเขื่อนมาก จึงขอให้วางใจว่า ทุกเขื่อนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด
ทั้งนี้ทุกเขื่อนมีความมั่นคงแข็งแรงพร้อมรองรับในทุกสถานการณ์ อีกทั้งยังมีมาตรการในการดูแลบำรุงรักษา การตรวจสอบ และการประเมินความมั่นคงปลอดภัยของตัวเขื่อนที่มีการดำเนินการมาอย่างสม่ำเสมอ ตามหลักวิชาการ และตามมาตรฐานสากล เพื่อความมั่นใจ นอกจากนี้ เขื่อนวชิราลงกรณมีการเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา โดยการตรวจสอบเขื่อน จะมีการดำเนินการโดย คณะกรรมการตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยของเขื่อน ซึ่งการดำเนินการตรวจสอบและประเมินความปลอดภัยของเขื่อนโดยกำหนดให้เขื่อนที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ และมีอายุใช้งานไม่เกิน 2 ปี ต้องตรวจสอบปีละ 2 ครั้ง ส่วนเขื่อนที่มีอายุใช้งานระหว่าง 2 ถึง 5 ปี ตรวจสอบปีละครั้งและเขื่อนที่มีอายุใช้งานกว่า 5 ปี ตรวจสอบทุกๆ 2 ปี
สำหรับการตรวจสอบ ประกอบด้วยการตรวจตัวเขื่อน ไหล่เขื่อน ลาดเขื่อน ตีนเขื่อน อุโมงค์ตรวจสอบ อาคารระบายน้ำ อาคารท้ายน้ำ อ่างเก็บน้ำ และสภาพทางธรณีวิทยา รวมทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าและเครื่องกล ด้วยมาตรฐานในระดับสากล
          แต่อย่างไรก็ดี ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยมีการติดตาม และตรวจสอบข้อมูลอย่างใกล้ชิด เพื่อป้องกันผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้น