วันจันทร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

นำพาชุมชนศึกษาดูงาน สอดรับ โครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์



การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เขื่อนศรีนครินทร์ ได้นำพาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี ประกอบด้วย๔ ตำบล ๑ เทศบาล ซึ่งมีผู้นำท้องถิ่นนำโดยนายกองค์การบริหารส่วนตำบลด่านแม่แฉลบ ตำบลหนองเป็ด ตำบลท่ากระดาน ตำบลแม่กระบุง และรองนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลเอราวัณ ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ จำนวน ๓๕ คน ศึกษาดูงาน โครงการพระราชดำริ บ้านเขาชะงุ้ม จังหวัดราชบุรี และเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี เพื่อสอดรับและเชื่อมโยงกับ “โครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์”และพร้อมนำมาปรับใช้ในการพัฒนาพื้นที่ของตนเอง

เมื่อวันพุธ ที่ ๑๖ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๘.๐๐ น. นายประสพชัย ทองพิมพ์ พยาบาลระดับ ๑๐ ผู้แทนกองบริหารเขื่อนศรีนครินทร์ พร้อมนางสาวไพริน กิจประยูร พนักงานวิชาชีพระดับ ๗ แผนกประชาสัมพันธ์และชุมชนสัมพันธ์เขื่อนศรีนครินทร์ ร่วมกับจิตอาสาที่เป็นผู้แทนรับผิดชอบงานด้าน CSR แต่ละหน่วยงานกอง เขื่อนศรีนครินทร์ นำพาชุมชนศึกษาดูงานพื้นที่เป้าหมายแรก คือโครงการพระราชดำริเขาชะงุ้ม เพื่อศึกษาวิธีการฟื้นฟูที่ดินเสื่อมโทรม ตามแนวพระราชดำริ ตำบลเขาชะงุ้ม อำเภอโพธาราม จังหวัดราชบุรี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงได้รับการน้อมเกล้าถวายที่ดิน จำนวนประมาณ ๗๐๐ ไร่ จากราษฎรอดีตเป็นนายตำรวจยศสัญญาบัตร ซึ่งแต่เดิมทำเป็นฟาร์มปศุสัตว์และปลูกพืชไร่ มีการใช้ที่ดินอย่างผิดวิธีทำให้หน้าดินเสียหาย ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ เกิดสภาพความแห้งแล้งโดยทั่วไปจนไม่สามารถปลูกพืชได้ หรือผลผลิตลดลง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตร จึงได้พระราชทานพระราชดำริในการปรับปรุงที่ดินเสื่อมโทรมแห่งนี้ให้กลับมีความอุดมสมบูรณ์ สามารถใช้ในการเพาะปลูกได้ รวมทั้งทรงยังแนะนำให้ปลูกหญ้าแฝกเพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ หลังจากที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานพระราชดำริในการปรับปรุงพื้นที่แห่งนี้ เมื่อวันที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๒๖ หน่วยงานต่างๆ ได้สนองพระราชดำริด้วยการศึกษาทดลองเพื่อหาวิธีการปรับปรุงดินในพื้นที่ให้กลับนำมาใช้ประโยชน์ในการเกษตรได้อีก และเป็นแนวทางในการปรับปรุงดินให้แก่ราษฎรที่อยู่บริเวณใกล้เคียง ตลอดจนเป็นรูปแบบสำหรับใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาพื้นที่อื่นๆ ซึ่งมีปัญหาคล้ายๆกับที่ดินแห่งนี้

หลังจากนั้นเวลา ๑๔.๓๐น. ได้เดินทางไปศึกษาดูงาน ณ หมู่ ๘ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน จังหวัดเพชรบุรี นอกจากจะกักเก็บทรัพยากรน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภคและเกษตรกรรมแล้ว ยังมีบทบาทต่อการประมง ถือว่าเป็น แหล่งผลิตอาหารเลี้ยงชาวเพชรบุรี และจังหวัดใกล้เคียงได้ อย่างอุดมสมบูรณ์ อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ชุมชนที่ประกอบอาชีพทำประมงน้ำจืด อาศัยในปริมณฑลอ่างเก็บน้ำแห่งนี้ มี ๖ ชุมชน ใน ๒ ตำบล พวกเขารวมตัวตั้งชื่อกันว่า กลุ่มผู้ประกอบอาชีพทำประมง น้ำจืดเพื่อการอนุรักษ์ และ พัฒนาอาชีพอ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน สมาชิกกลุ่มของ ๒ ตำบลนี้คือ ตำบลแก่งกระจาน ๔ ชุมชน ประกอบด้วย หมู่บ้านท่าเรือ หมู่บ้านน้ำทรัพย์ หมู่บ้านพุบอน และหมู่บ้านพุเข็ม.ส่วนตำบลสองพี่น้องมี ๒ หมู่บ้าน คือท่าลิงลมกับวังวน สมาชิกกลุ่มประมงน้ำจืดเหล่านี้มีความสนิทสนมคุ้นเคยกัน แม้ว่าจะอยู่คนละชุมชนบางรายก็เป็นญาติกันหรือไม่ก็เป็นมิตรสหายที่รักกันเสมือนกับญาติ.จึงไม่เคยมีการกระทบกระทั่งหรือ ทะเลาะวิวาท นายสุชาติ นกวอน กำนันตำบลแก่งกระจาน เล่าถึงปูมหลังว่าในอดีตพื้นที่แห่งนี้เคยอุดมสมบูรณ์ แล้วเกิดปัญหาเพราะความไม่เข้าใจ ด้วยการทำประมงแบบเห็นแก่ตัว ใช้ทั้งยาเบื่อ และระเบิดปลา จนเข้า สู่วิกฤตการณ์ ขาดแคลนทรัพยากรสัตว์น้ำที่จะหามาเลี้ยงชีพได้ ประสบการณ์เป็นบทเรียนที่ดี พวกเขาจึงหันเข้ามาจับมือกันปรึกษาหารือ ในแนวทางสร้างวิกฤติให้เป็นโอกาส ปัจจุบันชาวชุมชนประมง มีวิธีการในการบริหารจัดการประมง โดยใช้ประชาคมอาชีพทำประมงน้ำจืดเป็นหลักไม่ต้องผ่านหน่วยงานราชการใดๆ ทั้งนั้น และทำการ จัดแบ่งเขต และ พื้นที่ ตามความสำคัญ เช่น พื้นที่สีแดง คือเขตแหล่งพ่อ-แม่ พันธุ์สัตว์น้ำ ห้ามทำการประมงตลอดทั้งปี จุดสีแดง เขตฟื้นฟูสัตว์น้ำหน้าบ้านจัดทำกันเองเพื่อให้สัตว์น้ำได้อาศัย พื้นที่สีเหลือง เขตควบคุมแหล่งวางไข่และเลี้ยงตัวสัตว์น้ำวัยอ่อน และพื้นที่สีน้ำเงิน เขตที่ทำการประมงได้.มีการปักป้ายและกำหนดสีกันอย่างชัดเจนเป็นที่รู้กันในการปฏิบัติ ผู้นำชุมชน และ หน่วยงานรับผิดชอบเกี่ยวกับการประมง มีหน้าที่แค่เป็นพี่เลี้ยงคอย ให้คำปรึกษาในบางกรณีเท่านั้น การจัดการในการฟื้นฟูทรัพยากรสัตว์น้ำ อย่างจริงจังนี้ เมื่อปี ๒๕๒๐ กลุ่มเพื่อทำกิจกรรมในการอนุรักษ์ และ พัฒนาอาชีพด้านการประมง จึงได้รับการคัดเลือกเป็น ชุมชนประมงต้นแบบดีเด่น สัตว์น้ำจากแก่งกระจานที่ป้อนตลาดทุกวัน ๕ อันดับแรก คือ ปลาบู่ กุ้งก้ามกราม ปลาหมอ ช้างเหยียบ หรือ (ปลาตะกับ) และ ปลานิล ซึ่งทำรายได้เฉลี่ยวันหนึ่ง ไม่ต่ำกว่า ๒๐๐ บาทต่อคน ซึ่งสามารถมีความสุขอย่าง เพียงพอ ตามวิถีของเศรษฐกิจ พอเพียง

ในการศึกษาดูงานในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุน จาก นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนศรีนครินทร์จึงได้นำสิ่งที่ไปพบเห็นกลับมาถอดบทเรียนร่วมกัน ณ บ้านเอราวัณ เขื่อนศรีนครินทร์ เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๕๗ เวลา ๑๓.๓๐ น. โดยอาจารย์ภาณุพงศ์ นามวงศ์ เป็นผู้ดำเนินรายการในการสรุปจากการที่ผู้นำองค์การบริหารส่วนตำบลทั้ง ๕ ตำบล ว่ามีแนวคิด อย่างไร ในการนำมาปรับใช้ในพื้นที่ตนเอง เพื่อเป็นการพัฒนาไปในแนวทางเดียวกัน พร้อมวางแผน กำหนดเป้าหมายชัดเจน เกี่ยวกับ “โครงการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์” อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี เป็นการต่อยอด และก่อเกิดความยั่งยืนในอนาคตร่วมกัน