วันพฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2558
นำชุมชนศึกษาดูงานบ้านห้วยสะพานสามัคคี
เมื่อวันเสาร์ ที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๕๘ แผนกประชาสัมพันธ์ และชุมชนสัมพันธ์เขื่อนศรีนครินทร์ นำพาคณะพี่น้องชุมชน รวม ๓๓ หมู่บ้าน ในอำเภอศรีสวัสดิ์ เดินทางเข้าศึกษาดูงาน ณ บ้านห้วยสะพานสามัคคี หมู่ที่ ๒ ต.หนองโรง อ.พนมทวน จ.กาญจนบุรี ซึ่งมีนายประยงค์ แก้วประดิษฐ์ (ลุงเปียก) เป็นประธานป่าชุมชนพร้อมทีมงานให้การต้อนรับ กลุ่มมีปรัชญาในการจัดการป่าชุมชนมิได้วัดจากการดำรงอยู่ของป่าเพียงอย่างเดียว หากวัดจากประโยชน์ที่ชุมชนพึงได้รับจากผลของการจัดการเหล่านั้น ประโยชน์ที่ว่าหมายรวมถึงการเข้าถึง การแบ่งปันการใช้ทรัพยากรบนพื้นฐานของความเป็นธรรมเท่าเทียม และเกิดประโยชน์ร่วมต่อชุมชนสูงสุด ขณะเดียวกันก็ต่อยอดผลจากการจัดการป่ามาสู่การจัดการชีวิตได้อย่างสอดคล้องกับฐานทรัพยากรที่มีอยู่ สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วในกระบวนการจัดการ "ป่าชุมชนบ้านห้วยสะพานสามัคคี" โดยมีพื้นที่ป่าชุมชน ๑,๐๐๘ ไร่ ประชากร ๔ หมู่บ้าน บ้านห้วยสะพาน บ้านใหม่ บ้านหนองกระจันทร์ และบ้านดอนเจริญ ที่ดูแลป่าร่วมกัน จำนวน ๒,๗๕๔ คน ผลต่อการเปลี่ยนแปลง สามารถฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ เกิดความอุดมสมบูรณ์ทั้งพรรณพืชและสัตว์ป่า การเป็นศูนย์กลางการเรียนรู้ เชื่อมโยงการจัดการป่ามาสู่การรวมกลุ่มอาชีพเพื่อความเข้มแข็งของชุมชนใช้ประเพณีและวัฒนธรรมพื้นบ้านเป็นกลไกในการทำกิจกรรมด้านการอนุรักษ์ ยั่งยืน ด้วยหลัก "บวร" ชาวบ้านห้วยสะพานมีความผูกพันกับวัดและโรงเรียนอย่างใกล้ชิด ประเพณีส่วนใหญ่ของชุมชนประกอบขึ้นในเขตวัด ทำให้วัดมีบทบาทอย่างมากในการขัดเกลาด้านศีลธรรมและจริยธรรม ชาวบ้านมีจิตใจโอบอ้อมอารีต่อผู้อื่น ดังนั้นกลวิธีในการจัดการป่าจึงขยายจากเขตพื้นที่ป่าชุมชนมาสู่การสร้างป่าในวัด ด้วยโครงการ "ปลูกป่าสัญญาใจ" เพื่อให้ชุมชนร่วมกันปลูกต้นไม้ประจำตัวหรือประจำครอบครัวขึ้น จากนั้นร่วมกันดูแลรักษาเสมือนหนึ่งเป็นชีวิตของผู้ปลูกเอง อันเป็นกุศโรบายที่ทำให้เกิดความระหว่างชุมชนกับวัด ขณะเดียวกันก็ได้พัฒนาหลักสูตรท้องถิ่น เพี่อใช้ในการเรียนรู้ของนักเรียน / เยาวชนให้มีจิตสำนึกต่อการอนุรักษ์ธรรมชาติการเกิดประชาสังคม การศึกษาดูงานในครั้งนี้ ทำให้พี่น้องชุมชน อำเภอศรีสวัสดิ์ ได้เกิดแนวคิดในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของดำรงชีวิตประจำวัน และได้มองเห็นทุนทางธรรมชาติ ทุนทางสังคมที่มีมากมาย แต่สิ่งที่ผ่านมากลับมองไม่เห็น ประโยชน์ ซึ่งยกตัวอย่าง เช่น ป่าชุมชนสะมะแก ซึ่งเป็นป่าชุมชน อำเภอศรีสวัสดิ์ที่ได้รับรางวัล แต่ปัจจุบันกลับถูกมองข้าม และยังมีการบุกรุกคืบคลานจากกลุ่มนายทุนมากมาย ทำให้เกิดความเสียหาย ดังนั้นการศึกษาดูงานสามารถนำไปปรับใช้ ในการดำรงชีวิตได้จริง และจับมือกัน ช่วยกันดูแล ซุปเปอร์มาเก็ด ที่มีอยู่ในป่าให้คงความสมบูรณ์ เป็นการลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้จากป่าที่อยู่ล้อมรอบตัวเรานั่นเอง